พาลูกไปทำฟัน

ปัจจุบันพ่อแม่ผู้ปกครองหันมาสนใจดูแลสุขภาพฟันของเด็ก ๆ กันมากขึ้นมาก็จริงอยู่ แต่ยังพบว่ามีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่พาลูกไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสันนิษฐานว่าไม่ทราบว่าต้องพาลูกมาพบทันตแพทย์เมื่อใด ถ้าลูกไม่มีอาการปวดฟันจะมาพบทันตแพทย์ได้หรือไม่ และถ้าได้ ทันตแพทย์จะทำอะไรกับลูกของตน ประกอบกับข่าวที่เกิดขึ้นตามสื่อต่างๆในช่วงที่ผ่านมา อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจที่จะพาลูกไปพบทันตแพทย์ เรามีคำแนะนำแก่คุณพ่อคุณแม่และท่านผู้ปกครองดังนี้
โดยเริ่มต้นเลยคุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นดูแลสุขภาพฟันเด็ก โดยการตรวจดูฟัน ตรวจดูสภาพช่องปากของเด็กอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกเริ่มขึ้นเมื่ออายุประมาณ 6 เดือน และควรพาไปพบทันตแพทย์เมื่ออายุ 1 -2 ปี หรือเมื่อฟันน้ำนมขึ้นครบ 20 ซี่แล้ว แม้ว่าจะไม่มีอาการใด ๆ ก็ตาม เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับคลินิกทันตกรรม ซึ่งผู้ปกครองอาจอธิบายให้เด็กทราบถึงการมาทำฟันว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้ฟันแข็งแรง ฟันไม่ผุ ไม่ปวดฟัน และควรหลีกเลี่ยงคำพูดที่ฟังดูน่ากลัว เช่น เข็ม แทง ถอนฟัน เจ็บ เป็นต้น
การพาเด็กมาพบทันตแพทย์ที่คลินิกทันตกรรมครั้งแรก เด็กอาจจะร้องให้งอแง ไม่ให้ความร่วมมือ คุณพ่อ คุณแม่ไม่ควรตกใจ อาย หรือดุเพื่อให้เด็กเงียบ เพราะนั่นจะทำให้เด็กยิ่งเกลียดและกลัวการทำฟันมากขึ้น และรู้สึกว่าการทำฟันทำให้เขาถูกดุหรือถูกตี ทั้งนี้การทำฟันครั้งแรก ทันตแพทย์จะทำฟันง่ายๆที่ไม่มีความเจ็บปวด เช่น การขัดฟัน การเคลือบฟลูออไรด์การเอ็กซเรย์ฟัน เป็นต้น แล้วจึงนัดมาทำการรักษาที่ซับซ้อนในภายหลัง ซึ่งการพาเด็กมาทำฟันในขณะที่เด็กไม่มีฟันผุเลย เด็กมักจะร่วมมือได้ดีและ เข้าใจเหตุผลได้ดีกว่า การพาเด็กมารักษาหลังจากที่มีอาการเกิดขึ้นแล้ว
กรณีที่เด็กไม่ให้ความร่วมมือในระหว่างทำผูปกครองไม่ควรเข้าไปจัดการ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทันตแพทย์ การพูดสอดแทรกกับทันตแพทย์อาจทำให้เด็กสับสน การแสดงสีหน้าท่าทางลุกลนอาจทำให้เด็กเกิดความกังวลและไม่มั่นใจ จนไม่ยอมร่วมมือกับทันตแพทย์ การไม่เข้าไปในห้องทันตกรรมจะช่วยให้เด็กมีพฤติกรรมร่วมมือในการทำฟันดีขึ้น
คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครองเมื่ออ่านบทความนี้แล้ว ควรที่จะตระหนักถึงการพาเด็กไปพบทันตแพทย์ เพื่อสร้างบรรยากาศความคุ้นเคย และเพื่อให้เด็กสามารถที่จะปรับตัว และให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์ได้ดี ในการทำทันตกรรมต่าง ๆ เพื่อสุขภาพปากและฟันของเด็ก ๆ จะได้ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพของเด็ก หรือการขาดเรียนเพราะปวดฟัน จนคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองไม่เป็นอันทำงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น